การบริการจัดการสต๊อกสินค้า
การบริหารจัดการสต๊อกสินค้าของระบบ Wordpress มี 2 วิธี คือ
แบบระบุเป็นตัวเลขคงเหลือเหมาะกับการขายสินค้าที่มีจำนวนสต๊อกสินค้าที่แน่นอน ถ้าสินค้าหมดลูกค้าจะไม่สามารถสั่งซื้อได้แบบระบุเป็นสถานะเหมาะกับโรงงานหรือร้านค้าที่มีสินค้าขายอย่างไม่จำกัด แบ่งเป็น 2 สถานะ คือ- มีสินค้า (In stock)
- สินค้าหมดแล้ว (Out of stock)
วิธีบริหารสต๊อกแบบระบุเป็นตัวเลขคงเหลือ
คือ การควบคุมจำนวนสินค้าคงเหลือในรูปแบบตัวเลข หากสินค้าชิ้นใดถูกสั่งซื้อ จำนวนของสินค้าคงเหลือจะลดลงตามจำนวนที่ขายออกไป เมื่อจำนวนลดลงจนถึง “0” ระบบจะแสดงข้อความว่า “สินค้าหมด” และลูกค้าจะไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าชิ้นนั้นได้ อย่างไรก็ตาม หากมีการคืนสินค้าหรือเพิ่มจำนวนสินค้ากลับเข้าสู่ระบบ จำนวนคงเหลือจะถูกปรับเพิ่มขึ้น และลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อสินค้าชิ้นนั้นได้อีกครั้ง
เพื่อตั้งค่าการบริหารสต๊อกด้วยวิธีนี้ คุณต้องเปิดใช้งานตัวเลือก ✓ จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?)
สำหรับสินค้าทั่วไป (แบบระบุเป็นจำนวน)
- เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ
ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือกเมนู สินค้า ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลือกหัวข้อ สินค้าทั้งหมด ค้นหารายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข - เลือกหมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
คลิกที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)ของสินค้าที่ต้องการแก้ไข - เปิดใช้งานการจัดการคลังสินค้า
ติ๊กเครื่องหมายถูกที่✓ จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?)แล้วช่องกรอกจำนวนจะปรากฎขึ้นด้านล่าง - ระบุจำนวนสินค้าคงเหลือ
กรอกจำนวนตัวเลขของสินค้าที่คงเหลือในสต๊อก - บันทึกการเปลี่ยนแปลง
คลิกบันทึการเปลี่ยนแปลงในกล่องข้อมูลสินค้า และคลิกอัปเดตในกล่อง Publish เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
สำหรับสินค้ามีหลายแบบ (แบบระบุเป็นจำนวน)
- เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ
ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือกเมนู สินค้า ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลือกหัวข้อ สินค้าทั้งหมด ค้นหารายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข - เลือกหมวดรูปแบบ (Variations)
คลิกที่หมวดรูปแบบ (Variations)แทนการเลือกที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory) - เปิดใช้งานการจัดการคลังสินค้า
- ติ๊กเครื่องหมายถูกที่
✓ จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?)เพื่อเปิดใช้งานการติดตามสต๊อก - หรือใช้คำสั่ง คำสั่งเหมา (Bulk Actions) → เลือก
สลับ "จัดการคลังสินค้า" (Toggle Manage Stock)เพื่อเปิดใช้งานทุกคุณลักษณะพร้อมกัน
- ระบุจำนวนสินค้าคงเหลือ
- กรอกจำนวนตัวเลขทีละรายการ
- หรือใช้คำสั่ง คำสั่งเหมา (Bulk Actions) → เลือก
คลังสินค้า (Stock)เพื่อกำหนดจำนวนสำหรับทุกคุณลักษณะพร้อมกัน
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
คลิกบันทึการเปลี่ยนแปลงในกล่องข้อมูลสินค้า และคลิกอัปเดตในกล่อง Publish เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
วิธีบริหารสต๊อกแบบระบุเป็นสถานะ
คือ การกำหนดสถานะของสินค้าแทนการระบุจำนวนคงเหลือ โดยสถานะของสินค้าจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
มีสินค้า (In stock)= สินค้ายังมีพร้อมสำหรับการขาย ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ทันทีสินค้าหมด (Out of stock)= สินค้าไม่มีในสต๊อก ลูกค้าจะไม่สามารถสั่งซื้อได้
วิธีนี้เหมาะสำหรับร้านค้าที่ไม่ต้องการติดตามจำนวนสินค้าคงเหลืออย่างละเอียด เช่น ร้านค้าที่ขายสินค้าผลิตตามคำสั่งซื้อ หรือร้านค้าที่มีสินค้าจำนวนมากและไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้
เพื่อตั้งค่าการบริหารสต๊อกด้วยวิธีนี้ ให้เลือกปิด ✕ ใช้งานตัวเลือก จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?) จึงจะสามารถกำหนดสถานะของสินค้า (มีสินค้า / สินค้าหมด) ได้
สำหรับสินค้าทั่วไป (แบบระบุเป็นสถานะ)
- เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ
ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือกเมนู สินค้า ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลือกหัวข้อ สินค้าทั้งหมด ค้นหารายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข - เลือกหมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
คลิกที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)ของสินค้าที่ต้องการแก้ไข - ปิดการจัดการคลังสินค้า
หากตัวเลือกจัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?)ถูกเปิดใช้งานอยู่ ให้ปิดตัวเลือกนี้ก่อน เพื่อให้ตัวเลือกสถานะสินค้า (Stock status)ปรากฏขึ้นสำหรับการตั้งค่าสถานะสินค้า - เลือกสถานะของสินค้า
เลือกสถานะจากตัวเลือกที่มี เช่นมีสินค้า (In stock)หรือสินค้าหมด (Out of stock) - บันทึกการเปลี่ยนแปลง
คลิกบันทึการเปลี่ยนแปลงในกล่องข้อมูลสินค้า และคลิกอัปเดตในกล่อง Publish เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
สำหรับสินค้ามีหลายแบบ (แบบระบุเป็นสถานะ)
การตั้งค่าสถานะสินค้าของสินค้าที่มีหลายแบบ (Variable Product) ให้ไปตั้งค่าในระดับรูปแบบ (Variations) เพราะสินค้าแต่ละรูปแบบภายใต้สินค้าแม่ จะมีข้อมูลการตั้งค่าที่เป็นเฉพาะของแต่ละรูปแบบ
- เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ
ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือกเมนู สินค้า ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลือกหัวข้อ สินค้าทั้งหมด ค้นหารายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข - ปิดการจัดการคลังสินค้า และ กำหนดสถานะของรูปแบบสินค้า
- ปิดตัวเลือก “จัดการคลังสินค้า? (Manage stock?)” ในหมวดรูปแบบ (Variations) ทีละรูปแบบสินค้า → กำหนดสถานะของสินค้าว่า
มีสินค้าหรือสินค้าหมด - ปิดทีละหลายรายการด้วย คำสั่งเหมา (Bulk Actions) → เลือก
ตั้งสถานะ "มีสินค้า" (Set stauts - In stock)หรือตั้งสถานะ "สินค้าหมด (Set stauts -Put of stock)จะเป็นการสลับรูปแบบการบริหารสต๊อกจากแบบระบุตัวเลข เป็นแบบระบุสถานะตามสถานะที่กำหนดทันที
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
คลิกบันทึการเปลี่ยนแปลงในกล่องข้อมูลสินค้า และคลิกอัปเดตในกล่อง Publish เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
ระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า
หลายครั้งที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์ แต่อาจจะยังไม่ชำระเงินในทันที เช่น กรณีเลือกชำระเงินโดยวิธีโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร หรือชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แต่อาจต้องรอธนาคารบันทึกรายการ
เพื่อป้องกันการซื้อขายสินค้าเกินจำนวนคงเหลือในช่วงระหว่างรอการชำระเงิน ระบบ WooCommerce จะปรับลดสต็อกชั่วคราวตามจำนวนสินค้าที่ขายไปทันทีที่มีการสั่งซื้่อ จนกว่าจะครบเวลาที่กำหนดไว้หรือจนกว่ารายการสั่งซื้อจะถูกยืนยัน
วิธีกำหนดเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า (Hold Stock)
คุณสามารถตั้งค่าระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้าได้ง่าย ๆ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
- เข้าสู่หน้าการตั้งค่า WooCommerce
ไปที่เมนู WooCommerce ในแถบด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือก ตั้งค่า (Settings) - เลือกแท็บสินค้า (Products)
ในหน้าการตั้งค่า ให้คลิกที่แท็บ สินค้า (Products) เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับสินค้า - ไปที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
ในแท็บสินค้า ให้เลือกสินค้าคงคลัง (Inventory)เพื่อเปิดหน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกสินค้า - ตั้งค่าระยะเวลา
เก็บรักษาสินค้า (Hold Stock)
- ให้กรอกตัวเลขที่ต้องการ เช่น
60เพื่อกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้าไว้ชั่วคราวสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ได้ชำระเงิน (หน่วยเป็นนาที) - ปล่อยช่องนี้ว่างไว้ หากไม่ต้องการให้ระบบทำการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
คลิกปุ่ม
บันทึกการเปลี่ยนแปลง (Save changes)ที่ด้านล่างของหน้า เพื่อบันทึกการตั้งค่าที่คุณได้ปรับเปลี่ยน
หลังจากตั้งค่าเรียบร้อย ระบบ WooCommerce จะเก็บสต๊อกสินค้าไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด (เก็บไว้ 60 นาที) หากคำสั่งซื้อไม่ได้รับการชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด ระบบจะยกเลิกคำสั่งซื้อและปล่อยสต๊อกกลับเข้าสู่คลังสินค้าโดยอัตโนมัติ เพื่อที่ลูกค้ารายอื่นสามารถสั่งซื้อได้ในกรณีสินค้าเหลือชิ้นสุดท้าย
คำแนะนำในการตั้งระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า
การกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า ควรกำหนดให้เหมาะสมกับลักษณะการขายและพฤติกรรมของลูกค้า เช่น หากลูกค้าส่วนใหญ่ชำระเงินทันที อาจตั้งค่าระยะเวลาสั้น ๆ แต่หากลูกค้าส่วนใหญ่ใช้วิธีการชำระเงินที่ใช้เวลานาน ควรตั้งค่าให้ยืดหยุ่นมากขึ้น
ตั้งค่าระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้านานเกินไป
ข้อดี:
- ลดความเสี่ยงที่สินค้าจะถูกขายเกินจำนวนในกรณีที่มีคำสั่งซื้อจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
- ช่วยให้ลูกค้ามีเวลามากขึ้นในการชำระเงิน โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกค้าเลือกวิธีการชำระเงินที่ใช้เวลานาน เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร
ข้อเสีย:
- สินค้าอาจถูกกันไว้ในสต๊อกนานเกินไปสำหรับคำสั่งซื้อที่ไม่ได้ชำระเงิน ทำให้ลูกค้ารายอื่นไม่สามารถซื้อสินค้าได้
- อาจทำให้เกิดปัญหาสินค้าขาดสต๊อกชั่วคราวในกรณีที่สินค้ามีจำนวนจำกัด
ตั้งค่าระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้าสั้นเกินไป
ข้อดี:
- สินค้าจะถูกปล่อยกลับเข้าสู่สต๊อกได้เร็วขึ้น หากคำสั่งซื้อไม่ได้ชำระเงิน ทำให้ลูกค้ารายอื่นสามารถซื้อสินค้าได้
- ลดปัญหาการกันสต๊อกสินค้าไว้นานเกินความจำเป็น
ข้อเสีย:
- ลูกค้าอาจไม่มีเวลามากพอในการชำระเงิน โดยเฉพาะในกรณีที่เลือกวิธีการชำระเงินที่ใช้เวลานาน
- อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่พึงพอใจ หากคำสั่งซื้อถูกยกเลิกก่อนที่จะชำระเงินเสร็จสิ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครบเวลาการเก็บรักษาสต๊อก
เมื่อเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า (Hold Stock) หมดลงตามระยะเวลาที่คุณกำหนดไว้ โดยที่คำสั่งซื้อยังไม่ถูกยืนยัน ระบบ WooCommerce จะดำเนินการดังนี้
-
คำสั่งซื้อจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
หากคำสั่งซื้อยังไม่ได้รับการชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด ระบบจะยกเลิกคำสั่งซื้อนั้นโดยอัตโนมัติ และส่งอีเมลแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการยกเลิกคำสั่งซื้อ เพื่อให้ลูกค้าทราบถึงสถานะของคำสั่งซื้อและสามารถดำเนินการสั่งซื้อใหม่ได้หากต้องการ -
สต๊อกสินค้าจะถูกปล่อยกลับเข้าสู่ระบบ
จำนวนสินค้าที่ถูกปรับลดชั่วคราวในระหว่างการเก็บรักษาสต๊อก จะถูกคืนกลับเข้าสู่คลังสินค้า ทำให้ลูกค้ารายอื่นสามารถสั่งซื้อสินค้าได้อีกครั้ง
การแจ้งเตือนสต๊อกสินค้า
การจัดการสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการพลาดโอกาสทางการขาย WooCommerce มีฟีเจอร์การแจ้งเตือนสต๊อกสินค้าเพื่อช่วยให้คุณติดตามสถานะสต๊อกได้ง่ายและทันเวลา
ฟีเจอร์นี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทันทีเมื่อ…
- สินค้าในสต๊อกใกล้หมด หรือ เหลือน้อยกว่าที่คุณตั้งค่าไว้
- สินค้าหมดจากคลัง
แจ้งเตือนสินค้าใกล้หมด
เมื่อสินค้าของคุณใกล้หมด ระบบ WooCommerce จะส่งการแจ้งเตือนให้คุณทราบทันที เพื่อให้คุณสามารถเติมสต๊อกได้อย่างรวดเร็วและไม่พลาดโอกาสการขาย
- เข้าสู่หน้าการตั้งค่า WooCommerce
ไปที่เมนู WooCommerce ในแถบด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือก ตั้งค่า (Settings) - เลือกแท็บสินค้า (Products)
ในหน้าการตั้งค่า ให้คลิกที่แท็บ สินค้า (Products) เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับสินค้า - ไปที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
ในแท็บสินค้า ให้เลือกสินค้าคงคลัง (Inventory)เพื่อเปิดหน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกสินค้า - ตั้งค่าการแจ้งเตือนสินค้าใกล้หมด
- เปิดใช้งานตัวเลือก
✓ เปิดแจ้งเตือนสินค้าเหลือน้อย (Enable low stock notification) - ระบุจำนวนสินค้าที่เหลือน้อยในช่อง
จำนวนสต๊อกเหลือน้อย ณ จุดที่ตรวจสอบ (Low stock threshold)เช่น5เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อสินค้าคงเหลือในสต๊อกน้อยกว่า 5 ชิ้น
- ตั้งค่าที่อยู่อีเมลสำหรับรับการแจ้งเตือน
- กรอกอีเมลที่ต้องการรับการแจ้งเตือนในช่อง
ผู้รับการแจ้งเตือน (Notification recipient email) - คุณสามารถเพิ่มอีเมลหลายรายการได้ โดยใช้เครื่องหมายจุลภาค (,) คั่นระหว่างอีเมล
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
คลิกปุ่มบันทึกการเปลี่ยนแปลง (Save changes)ที่ด้านล่างของหน้า เพื่อบันทึกการตั้งค่าที่คุณได้ปรับเปลี่ยน
แจ้งเตือนสินค้าหมดสต๊อก
สินค้าหมดสต๊อกหมายถึงโอกาสในการทำกำไรของคุณลดลงไปเช่นกัน เมื่อสินค้าใดในร้านหมดสต๊อก ระบบ WooCommerce จะส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลให้คุณทราบทันที
- เข้าสู่หน้าการตั้งค่า WooCommerce
ไปที่เมนู WooCommerce ในแถบด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือก ตั้งค่า (Settings) - เลือกแท็บสินค้า (Products)
ในหน้าการตั้งค่า ให้คลิกที่แท็บ สินค้า (Products) เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับสินค้า - ไปที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
ในแท็บสินค้า ให้เลือกสินค้าคงคลัง (Inventory)เพื่อเปิดหน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกสินค้า - ตั้งค่าการแจ้งเตือนสินค้าหมดสต็อก
- เปิดใช้งานตัวเลือก
✓ เปิดแจ้งเตือนสินค้าหมดสต็อก (Enable out of stock notifications) - ระบุจำนวนสินค้าที่ถือว่าหมดสต็อก ในช่อง
สินค้าหมดจากสต๊อก ณ จุดที่ตรวจสอบ (Out of stock threshold)เช่น0เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อสินค้าคงเหลือในสต๊อกเท่ากับ 0 ชิ้น
- ตั้งค่าที่อยู่อีเมลสำหรับรับการแจ้งเตือน
- กรอกอีเมลที่ต้องการรับการแจ้งเตือนในช่อง
ผู้รับการแจ้งเตือน (Notification recipient email) - คุณสามารถเพิ่มอีเมลหลายรายการได้ โดยใช้เครื่องหมายจุลภาค (,) คั่นระหว่างอีเมล
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
คลิกปุ่มบันทึกการเปลี่ยนแปลง (Save changes)ที่ด้านล่างของหน้า เพื่อบันทึกการตั้งค่าที่คุณได้ปรับเปลี่ยน