Skip to content

การบริการจัดการสต๊อกสินค้า

การบริหารจัดการสต๊อกสินค้าของระบบ Wordpress มี 2 วิธี คือ

  • แบบระบุเป็นตัวเลขคงเหลือ เหมาะกับการขายสินค้าที่มีจำนวนสต๊อกสินค้าที่แน่นอน ถ้าสินค้าหมดลูกค้าจะไม่สามารถสั่งซื้อได้
  • แบบระบุเป็นสถานะ เหมาะกับโรงงานหรือร้านค้าที่มีสินค้าขายอย่างไม่จำกัด แบ่งเป็น 2 สถานะ คือ
    • มีสินค้า (In stock)
    • สินค้าหมดแล้ว (Out of stock)

วิธีบริหารสต๊อกแบบระบุเป็นตัวเลขคงเหลือ

คือ การควบคุมจำนวนสินค้าคงเหลือในรูปแบบตัวเลข หากสินค้าชิ้นใดถูกสั่งซื้อ จำนวนของสินค้าคงเหลือจะลดลงตามจำนวนที่ขายออกไป เมื่อจำนวนลดลงจนถึง “0” ระบบจะแสดงข้อความว่า “สินค้าหมด” และลูกค้าจะไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าชิ้นนั้นได้ อย่างไรก็ตาม หากมีการคืนสินค้าหรือเพิ่มจำนวนสินค้ากลับเข้าสู่ระบบ จำนวนคงเหลือจะถูกปรับเพิ่มขึ้น และลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อสินค้าชิ้นนั้นได้อีกครั้ง

เพื่อตั้งค่าการบริหารสต๊อกด้วยวิธีนี้ คุณต้องเปิดใช้งานตัวเลือก ✓ จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?)

สำหรับสินค้าทั่วไป (แบบระบุเป็นจำนวน)

  1. เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ
    ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือกเมนู สินค้า ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลือกหัวข้อ สินค้าทั้งหมด ค้นหารายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข
  2. เลือกหมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
    คลิกที่ หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory) ของสินค้าที่ต้องการแก้ไข
  3. เปิดใช้งานการจัดการคลังสินค้า
    ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ ✓ จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?) แล้วช่องกรอกจำนวนจะปรากฎขึ้นด้านล่าง
  4. ระบุจำนวนสินค้าคงเหลือ
    กรอกจำนวนตัวเลขของสินค้าที่คงเหลือในสต๊อก
  5. บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    คลิก บันทึการเปลี่ยนแปลง ในกล่องข้อมูลสินค้า และคลิกอัปเดต ในกล่อง Publish เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

สำหรับสินค้ามีหลายแบบ (แบบระบุเป็นจำนวน)

  1. เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ
    ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือกเมนู สินค้า ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลือกหัวข้อ สินค้าทั้งหมด ค้นหารายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข
  2. เลือกหมวดรูปแบบ (Variations)
    คลิกที่ หมวดรูปแบบ (Variations) แทนการเลือกที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
  3. เปิดใช้งานการจัดการคลังสินค้า
  • ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ ✓ จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?) เพื่อเปิดใช้งานการติดตามสต๊อก
  • หรือใช้คำสั่ง คำสั่งเหมา (Bulk Actions) → เลือก สลับ "จัดการคลังสินค้า" (Toggle Manage Stock) เพื่อเปิดใช้งานทุกคุณลักษณะพร้อมกัน
  1. ระบุจำนวนสินค้าคงเหลือ
  • กรอกจำนวนตัวเลขทีละรายการ
  • หรือใช้คำสั่ง คำสั่งเหมา (Bulk Actions) → เลือก คลังสินค้า (Stock) เพื่อกำหนดจำนวนสำหรับทุกคุณลักษณะพร้อมกัน
  1. บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    คลิก บันทึการเปลี่ยนแปลง ในกล่องข้อมูลสินค้า และคลิกอัปเดต ในกล่อง Publish เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

วิธีบริหารสต๊อกแบบระบุเป็นสถานะ

คือ การกำหนดสถานะของสินค้าแทนการระบุจำนวนคงเหลือ โดยสถานะของสินค้าจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. มีสินค้า (In stock) = สินค้ายังมีพร้อมสำหรับการขาย ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ทันที
  2. สินค้าหมด (Out of stock) = สินค้าไม่มีในสต๊อก ลูกค้าจะไม่สามารถสั่งซื้อได้

วิธีนี้เหมาะสำหรับร้านค้าที่ไม่ต้องการติดตามจำนวนสินค้าคงเหลืออย่างละเอียด เช่น ร้านค้าที่ขายสินค้าผลิตตามคำสั่งซื้อ หรือร้านค้าที่มีสินค้าจำนวนมากและไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้

เพื่อตั้งค่าการบริหารสต๊อกด้วยวิธีนี้ ให้เลือกปิด ✕ ใช้งานตัวเลือก จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?) จึงจะสามารถกำหนดสถานะของสินค้า (มีสินค้า / สินค้าหมด) ได้

สำหรับสินค้าทั่วไป (แบบระบุเป็นสถานะ)

  1. เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ
    ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือกเมนู สินค้า ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลือกหัวข้อ สินค้าทั้งหมด ค้นหารายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข
  2. เลือกหมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
    คลิกที่ หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory) ของสินค้าที่ต้องการแก้ไข
  3. ปิดการจัดการคลังสินค้า
    หากตัวเลือก จัดการคลังสินค้า? (Track stock quality for this product?) ถูกเปิดใช้งานอยู่ ให้ปิดตัวเลือกนี้ก่อน เพื่อให้ตัวเลือก สถานะสินค้า (Stock status) ปรากฏขึ้นสำหรับการตั้งค่าสถานะสินค้า
  4. เลือกสถานะของสินค้า
    เลือกสถานะจากตัวเลือกที่มี เช่น มีสินค้า (In stock) หรือ สินค้าหมด (Out of stock)
  5. บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    คลิก บันทึการเปลี่ยนแปลง ในกล่องข้อมูลสินค้า และคลิกอัปเดต ในกล่อง Publish เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

สำหรับสินค้ามีหลายแบบ (แบบระบุเป็นสถานะ)

การตั้งค่าสถานะสินค้าของสินค้าที่มีหลายแบบ (Variable Product) ให้ไปตั้งค่าในระดับรูปแบบ (Variations) เพราะสินค้าแต่ละรูปแบบภายใต้สินค้าแม่ จะมีข้อมูลการตั้งค่าที่เป็นเฉพาะของแต่ละรูปแบบ

  1. เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ
    ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือกเมนู สินค้า ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลือกหัวข้อ สินค้าทั้งหมด ค้นหารายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข
  2. ปิดการจัดการคลังสินค้า และ กำหนดสถานะของรูปแบบสินค้า
  • ปิดตัวเลือก “จัดการคลังสินค้า? (Manage stock?)” ในหมวดรูปแบบ (Variations) ทีละรูปแบบสินค้า → กำหนดสถานะของสินค้าว่า มีสินค้า หรือ สินค้าหมด
  • ปิดทีละหลายรายการด้วย คำสั่งเหมา (Bulk Actions) → เลือก ตั้งสถานะ "มีสินค้า" (Set stauts - In stock) หรือ ตั้งสถานะ "สินค้าหมด (Set stauts -Put of stock) จะเป็นการสลับรูปแบบการบริหารสต๊อกจากแบบระบุตัวเลข เป็นแบบระบุสถานะตามสถานะที่กำหนดทันที
  1. บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    คลิก บันทึการเปลี่ยนแปลง ในกล่องข้อมูลสินค้า และคลิกอัปเดต ในกล่อง Publish เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

ระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า

หลายครั้งที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์ แต่อาจจะยังไม่ชำระเงินในทันที เช่น กรณีเลือกชำระเงินโดยวิธีโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร หรือชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แต่อาจต้องรอธนาคารบันทึกรายการ

เพื่อป้องกันการซื้อขายสินค้าเกินจำนวนคงเหลือในช่วงระหว่างรอการชำระเงิน ระบบ WooCommerce จะปรับลดสต็อกชั่วคราวตามจำนวนสินค้าที่ขายไปทันทีที่มีการสั่งซื้่อ จนกว่าจะครบเวลาที่กำหนดไว้หรือจนกว่ารายการสั่งซื้อจะถูกยืนยัน

วิธีกำหนดเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า (Hold Stock)

คุณสามารถตั้งค่าระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้าได้ง่าย ๆ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าสู่หน้าการตั้งค่า WooCommerce
    ไปที่เมนู WooCommerce ในแถบด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือก ตั้งค่า (Settings)
  2. เลือกแท็บสินค้า (Products)
    ในหน้าการตั้งค่า ให้คลิกที่แท็บ สินค้า (Products) เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
  3. ไปที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
    ในแท็บสินค้า ให้เลือก สินค้าคงคลัง (Inventory) เพื่อเปิดหน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกสินค้า
  4. ตั้งค่าระยะเวลา เก็บรักษาสินค้า (Hold Stock)
  • ให้กรอกตัวเลขที่ต้องการ เช่น 60 เพื่อกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้าไว้ชั่วคราวสำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่ได้ชำระเงิน (หน่วยเป็นนาที)
  • ปล่อยช่องนี้ว่างไว้ หากไม่ต้องการให้ระบบทำการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า
  1. บันทึกการเปลี่ยนแปลง คลิกปุ่ม บันทึกการเปลี่ยนแปลง (Save changes) ที่ด้านล่างของหน้า เพื่อบันทึกการตั้งค่าที่คุณได้ปรับเปลี่ยน

หลังจากตั้งค่าเรียบร้อย ระบบ WooCommerce จะเก็บสต๊อกสินค้าไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด (เก็บไว้ 60 นาที) หากคำสั่งซื้อไม่ได้รับการชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด ระบบจะยกเลิกคำสั่งซื้อและปล่อยสต๊อกกลับเข้าสู่คลังสินค้าโดยอัตโนมัติ เพื่อที่ลูกค้ารายอื่นสามารถสั่งซื้อได้ในกรณีสินค้าเหลือชิ้นสุดท้าย

คำแนะนำในการตั้งระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า

การกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า ควรกำหนดให้เหมาะสมกับลักษณะการขายและพฤติกรรมของลูกค้า เช่น หากลูกค้าส่วนใหญ่ชำระเงินทันที อาจตั้งค่าระยะเวลาสั้น ๆ แต่หากลูกค้าส่วนใหญ่ใช้วิธีการชำระเงินที่ใช้เวลานาน ควรตั้งค่าให้ยืดหยุ่นมากขึ้น

ตั้งค่าระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้านานเกินไป

ข้อดี:

  • ลดความเสี่ยงที่สินค้าจะถูกขายเกินจำนวนในกรณีที่มีคำสั่งซื้อจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
  • ช่วยให้ลูกค้ามีเวลามากขึ้นในการชำระเงิน โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกค้าเลือกวิธีการชำระเงินที่ใช้เวลานาน เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร

ข้อเสีย:

  • สินค้าอาจถูกกันไว้ในสต๊อกนานเกินไปสำหรับคำสั่งซื้อที่ไม่ได้ชำระเงิน ทำให้ลูกค้ารายอื่นไม่สามารถซื้อสินค้าได้
  • อาจทำให้เกิดปัญหาสินค้าขาดสต๊อกชั่วคราวในกรณีที่สินค้ามีจำนวนจำกัด

ตั้งค่าระยะเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้าสั้นเกินไป

ข้อดี:

  • สินค้าจะถูกปล่อยกลับเข้าสู่สต๊อกได้เร็วขึ้น หากคำสั่งซื้อไม่ได้ชำระเงิน ทำให้ลูกค้ารายอื่นสามารถซื้อสินค้าได้
  • ลดปัญหาการกันสต๊อกสินค้าไว้นานเกินความจำเป็น

ข้อเสีย:

  • ลูกค้าอาจไม่มีเวลามากพอในการชำระเงิน โดยเฉพาะในกรณีที่เลือกวิธีการชำระเงินที่ใช้เวลานาน
  • อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่พึงพอใจ หากคำสั่งซื้อถูกยกเลิกก่อนที่จะชำระเงินเสร็จสิ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครบเวลาการเก็บรักษาสต๊อก

เมื่อเวลาการเก็บรักษาสต๊อกสินค้า (Hold Stock) หมดลงตามระยะเวลาที่คุณกำหนดไว้ โดยที่คำสั่งซื้อยังไม่ถูกยืนยัน ระบบ WooCommerce จะดำเนินการดังนี้

  1. คำสั่งซื้อจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
    หากคำสั่งซื้อยังไม่ได้รับการชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด ระบบจะยกเลิกคำสั่งซื้อนั้นโดยอัตโนมัติ และส่งอีเมลแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการยกเลิกคำสั่งซื้อ เพื่อให้ลูกค้าทราบถึงสถานะของคำสั่งซื้อและสามารถดำเนินการสั่งซื้อใหม่ได้หากต้องการ

  2. สต๊อกสินค้าจะถูกปล่อยกลับเข้าสู่ระบบ
    จำนวนสินค้าที่ถูกปรับลดชั่วคราวในระหว่างการเก็บรักษาสต๊อก จะถูกคืนกลับเข้าสู่คลังสินค้า ทำให้ลูกค้ารายอื่นสามารถสั่งซื้อสินค้าได้อีกครั้ง

การแจ้งเตือนสต๊อกสินค้า

การจัดการสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการพลาดโอกาสทางการขาย WooCommerce มีฟีเจอร์การแจ้งเตือนสต๊อกสินค้าเพื่อช่วยให้คุณติดตามสถานะสต๊อกได้ง่ายและทันเวลา

ฟีเจอร์นี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทันทีเมื่อ…

  • สินค้าในสต๊อกใกล้หมด หรือ เหลือน้อยกว่าที่คุณตั้งค่าไว้
  • สินค้าหมดจากคลัง

แจ้งเตือนสินค้าใกล้หมด

เมื่อสินค้าของคุณใกล้หมด ระบบ WooCommerce จะส่งการแจ้งเตือนให้คุณทราบทันที เพื่อให้คุณสามารถเติมสต๊อกได้อย่างรวดเร็วและไม่พลาดโอกาสการขาย

  1. เข้าสู่หน้าการตั้งค่า WooCommerce
    ไปที่เมนู WooCommerce ในแถบด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือก ตั้งค่า (Settings)
  2. เลือกแท็บสินค้า (Products)
    ในหน้าการตั้งค่า ให้คลิกที่แท็บ สินค้า (Products) เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
  3. ไปที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
    ในแท็บสินค้า ให้เลือก สินค้าคงคลัง (Inventory) เพื่อเปิดหน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกสินค้า
  4. ตั้งค่าการแจ้งเตือนสินค้าใกล้หมด
  • เปิดใช้งานตัวเลือก ✓ เปิดแจ้งเตือนสินค้าเหลือน้อย (Enable low stock notification)
  • ระบุจำนวนสินค้าที่เหลือน้อยในช่อง จำนวนสต๊อกเหลือน้อย ณ จุดที่ตรวจสอบ (Low stock threshold) เช่น 5 เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อสินค้าคงเหลือในสต๊อกน้อยกว่า 5 ชิ้น
  1. ตั้งค่าที่อยู่อีเมลสำหรับรับการแจ้งเตือน
  • กรอกอีเมลที่ต้องการรับการแจ้งเตือนในช่อง ผู้รับการแจ้งเตือน (Notification recipient email)
  • คุณสามารถเพิ่มอีเมลหลายรายการได้ โดยใช้เครื่องหมายจุลภาค (,) คั่นระหว่างอีเมล
  1. บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    คลิกปุ่ม บันทึกการเปลี่ยนแปลง (Save changes) ที่ด้านล่างของหน้า เพื่อบันทึกการตั้งค่าที่คุณได้ปรับเปลี่ยน

แจ้งเตือนสินค้าหมดสต๊อก

สินค้าหมดสต๊อกหมายถึงโอกาสในการทำกำไรของคุณลดลงไปเช่นกัน เมื่อสินค้าใดในร้านหมดสต๊อก ระบบ WooCommerce จะส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลให้คุณทราบทันที

  1. เข้าสู่หน้าการตั้งค่า WooCommerce
    ไปที่เมนู WooCommerce ในแถบด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือก ตั้งค่า (Settings)
  2. เลือกแท็บสินค้า (Products)
    ในหน้าการตั้งค่า ให้คลิกที่แท็บ สินค้า (Products) เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
  3. ไปที่หมวดสินค้าคงคลัง (Inventory)
    ในแท็บสินค้า ให้เลือก สินค้าคงคลัง (Inventory) เพื่อเปิดหน้าการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกสินค้า
  4. ตั้งค่าการแจ้งเตือนสินค้าหมดสต็อก
  • เปิดใช้งานตัวเลือก ✓ เปิดแจ้งเตือนสินค้าหมดสต็อก (Enable out of stock notifications)
  • ระบุจำนวนสินค้าที่ถือว่าหมดสต็อก ในช่อง สินค้าหมดจากสต๊อก ณ จุดที่ตรวจสอบ (Out of stock threshold) เช่น 0 เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อสินค้าคงเหลือในสต๊อกเท่ากับ 0 ชิ้น
  1. ตั้งค่าที่อยู่อีเมลสำหรับรับการแจ้งเตือน
  • กรอกอีเมลที่ต้องการรับการแจ้งเตือนในช่อง ผู้รับการแจ้งเตือน (Notification recipient email)
  • คุณสามารถเพิ่มอีเมลหลายรายการได้ โดยใช้เครื่องหมายจุลภาค (,) คั่นระหว่างอีเมล
  1. บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    คลิกปุ่ม บันทึกการเปลี่ยนแปลง (Save changes) ที่ด้านล่างของหน้า เพื่อบันทึกการตั้งค่าที่คุณได้ปรับเปลี่ยน