Skip to content

สถานะของออเดอร์

สถานะคำสั่งซื้อใน WooCommerce

ทุกออเดอร์ที่อยู่ในหน้าจัดการคำสั่งซื้อจะมีสถานะเป็นของตัวเอง สถานะจะเป็นตัวบอกการเดินทางของออเดอร์ โดยเริ่มจาก รอการชำระเงิน (Pending Payment) ไปสิ้นสุดที่ จัดส่งแล้ว (Completed)

สถานะของออเดอร์มีทั้งหมดมี 7 สถานะ

  • รอการชำระเงิน (Pending Payment)
    หมายถึง คำสั่งซื้อถูกสร้างขึ้นแล้ว แต่ยังไม่มีการชำระเงิน รอลูกค้าชำระเงินตามรายการสั่งซื้อนั้นๆ
  • รอแจ้งชำระเงิน (On hold)
    หมายถึง คำสั่งซื้อนั้นกำลังรอยืนยันการแจ้งชำระเงินจากลูกค้า มักเป็นการชำระเงินด้วยวิธีโอนเงินผ่านธนาคาร ที่ไม่มีการยืนยันการชำระเงินทันที ต้องการการตรวจสอบการชำระเงินด้วยตัวร้านค้าเอง ในสถานะนี้สินค้าจะถูกหักจากสต๊อคสินค้าแล้ว
  • กำลังดำเนินการ (Processing)
    หมายถึง คำสั่งซื้อถูกชำระเงินเรียบร้อยแล้ว และรอการจัดส่ง
  • จัดส่งแล้ว (Completed)
    หมายถึง คำสั่งซื้อถูกจัดส่งแล้ว เป็นสถานะสุดท้ายที่ไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม
  • ไม่สำเร็จ (Failed)
    การที่ออเดอร์เปลี่ยนเป็นสถานะนี้ เพราะ
    • การชำระเงินเกิดข้อผิดพลาด เช่น กรณีชำระผ่านบัตรเครดิต
    • คำสั่งซื้อถูกลูกค้าละทิ้ง ไม่ถูกดำเนินการชำระเงินให้เสร็จก่อนระยะเวลาที่กำหนดไว้ (ระยะเวลานี้สามารถปรับแต่งได้ ในหน้า Woocommerce → ตั้งค่า → สินค้าคงคลัง → เรื่อง “การเก็บรักษาสินค้า”)
  • ยกเลิก (Cancel)
    หมายถึง คำสั่งซื้อนั้นถูกยกเลิกโดยแอดมินหรือลูกค้าเอง สต๊อคสินค้าถูกคืนกลับเข้าสู่ระบบ
  • คืนเงิน (Refunded)
    หมายถึง คำสั่งซื้อนั้นมีการคืนเงินให้ลูกค้า

การเปลี่ยนสถานะออเดอร์

การเปลี่ยนสถานะออเดอร์เกิดขึ้นได้ 3 วิธีหลัก คือ

  • เปลี่ยนเอง (Manual): ผู้ดูแลร้านเปลี่ยนสถานะผ่านระบบหลังบ้าน
  • เปลี่ยนอัตโนมัติ (Automatic): ระบบเปลี่ยนสถานะตามเงื่อนไข เช่น การชำระเงินสำเร็จหรือสินค้าถูกจัดส่ง
  • เปลี่ยนด้วยปลั๊กอินเสริม: ใช้ปลั๊กอินช่วยจัดการสถานะ เช่น ระบบขนส่งหรือการชำระเงิน

วิธีเปลี่ยนสถานะทีละออเดอร์

วิธีที่ 1 เปลี่ยนในหน้าแก้ไขรายการสั่งซื้อ

  1. ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือก WooCommerce ในแถบเมนูซ้ายมือ จากนั้นเลือกหัวข้อ คำสั่งซื้อ แล้วเลือกคำสั่งซื้อที่ต้องการ
  2. หน้าจอปรากฏรายละเอียดทั้งหมดของออเดอร์ สถานะปัจจุบันจะแสดงอยู่ตรงกล่องแสดงข้อมูลออเดอร์
  3. คลิกที่เมนูแบบเลื่อนลง (dropdown) แล้วเลือกสถานะที่ต้องการเปลี่ยน
  4. คลิกอัปเดต เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

วิธีที่ 2 เปลี่ยนสถานะจากหน้าดูตัวอย่าง

เหมาะสำหรับการปรับเปลี่ยนสถานะอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดหน้ารายละเอียดคำสั่งซื้อเต็มรูปแบบ

  1. ไปที่เมนู WooCommerce ในแถบเมนูซ้ายมือของ Wordpress แล้วเลือกหัวข้อ คำสั่งซื้อ
  2. คลิกที่ไอคอน รูปตา (Preview) ซึ่งอยู่ถัดจากหมายเลขคำสั่งซื้อที่ต้องการ
  3. หน้าต่างแสดงตัวอย่างคำสั่งซื้อจะปรากฏขึ้น โดยจะแสดงรายละเอียดคำสั่งซื้อแบบย่อ
  4. เลื่อนลงไปที่ด้านล่างของหน้าต่าง จะพบรายการสถานะคำสั่งซื้อที่เรียงตามลำดับ
  5. คลิกเลือกสถานะที่ต้องการเปลี่ยน ระบบจะอัปเดตสถานะคำสั่งซื้อให้ทันที

วิธีที่ 3 เปลี่ยนสถานะหลายออเดอร์พร้อมกัน

หากต้องการเปลี่ยนสถานะหลายออเดอร์ในครั้งเดียว สามารถใช้ฟีเจอร์ คำสั่งเหมา (Bulk actions) ได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนดังนี้:

  1. ไปที่เมนู WooCommerce ในแถบเมนูซ้ายมือของ Wordpress แล้วเลือกหัวข้อ คำสั่งซื้อ
  2. ติ๊กเลือกออเดอร์ที่ต้องการเปลี่ยนสถานะ โดยคลิกที่ช่องสี่เหลี่ยมด้านหน้าของแต่ละออเดอร์
  3. ที่ด้านบนของรายการคำสั่งซื้อ ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลง (dropdown) ของ คำสั่งเหมา (Bulk actions)
  4. เลือกคำสั่ง เปลี่ยนสถานะออเดอร์
  5. เลือกสถานะใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนจากเมนูที่ปรากฏ
  6. คลิกปุ่ม นำไปใช้ (Apply) เพื่อยืนยัน ระบบจะเปลี่ยนสถานะของออเดอร์ทั้งหมดที่เลือกในทันที

เปลี่ยนสถานะออเดอร์แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

เมื่อสถานะออเดอร์เปลี่ยน ไม่ใช่แค่เปลี่ยนสีหรือข้อความในแถบสถานะเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบหลายอย่าง เช่น การแจ้งเตือนลูกค้า, การตัดสต็อกสินค้าในระบบ

สถานะใดจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?

ลูกค้าและร้านค้าจะได้รับอีเมลแจ้งเตือน

ระบบแจ้งเตือนอีเมลอัตโนมัติ จะแจ้งให้ลูกค้าและร้านค้าทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานะออเดอร์ โดยค่าเริ่มต้นจะมีอีเมลดังนี้:

ลูกค้าจะได้รับอีเมล เมื่อสถานะออเดอร์ถูกเปลี่ยนเป็น…

  • รอชำระเงิน (Pending Payment) → แจ้งให้ลูกค้าทราบว่าระบบและแอดมินได้รับออเดอร์แล้ว หัวข้ออีเมลที่ลูกค้าจะได้รับคือ “คำสั่งซื้อใหม่ (New Order)”
  • กำลังดำเนินการ (Processing) → แจ้งว่าร้านค้าเริ่มเตรียมสินค้าแล้ว และกำลังจะส่งสินค้า
  • เสร็จสมบูรณ์(Completed) → แจ้งว่าสินค้าถูกจัดส่งเรียบร้อย
  • คืนเงินแล้ว (Refunded) → แจ้งว่าลูกค้าได้รับเงินคืนแล้ว
  • ยกเลิก (Cancelled) → แจ้งว่าคำสั่งซื้อถูกยกเลิก

ร้านค้าจะได้รับอีเมล เมื่อสถานะออเดอร์เป็น…

  • รอชำระเงิน (Pending Payment) → แจ้งเตือนให้ร้านค้าทราบว่ามีออเดอร์ใหม่เข้ามา
  • สินค้าหมดสต็อก → แจ้งเตือนหากสินค้าคงเหลือเป็น “0”
  • สินค้าคงเหลือต่ำ → แจ้งเตือนถ้าสต็อกสินค้าใกล้หมด

สต๊อกสินค้าเปลี่ยนแปลง

เมื่อเลือกเปิดโหมด “จัดการสต๊อก” ในหน้าตั้งค่าของ WooCommerce ระบบจะควบคุมและจัดการสต็อกสินค้าให้โดยอัตโนมัติ ตามสถานะของออเดอร์ที่เปลี่ยนไป

ระบบยังไม่ตัดสต็อก เมื่ออยู่ในสถานะดังนี้

  • รอชำระเงิน (Pending Payment) → ออเดอร์ถูกสร้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสต็อก เพราะลูกค้ายังไม่ชำระเงิน
  • ล้มเหลว (Failed) → การชำระเงินไม่ผ่าน ระบบจะไม่ตัดสต็อก

ระบบตัดสต็อกทันที เมื่ออยู่ในสถานะดังนี้

  • กำลังดำเนินการ (Processing) → ระบบจะตัดสต็อกสินค้าอัตโนมัติ เพราะถือว่าได้รับการชำระเงินแล้ว
  • เสร็จสมบูรณ์ (Completed) → สินค้าถูกส่งแล้ว สต็อกจะถูกตัดตั้งแต่สถานะเป็น “กำลังดำเนินการ (Processing)”

ระบบจะคืนสต็อกกลับเข้าระบบ เมื่ออยู่ในสถานะดังนี้

  • ยกเลิก (Cancelled) → ถ้าสั่งซื้อแล้วถูกยกเลิก ระบบจะคืนสต็อกสินค้า
  • ขอคืนเงิน (Refunded) → เมื่อร้านค้าคืนเงิน ระบบจะคืนสต็อกให้ตามจำนวนสินค้าที่ถูกคืน