Skip to content

วิธีจัดการออเดอร์

รายการสั่งซื้อทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการซื้อขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ของคุณ จะถูกรวบรวมไว้ในหน้าจัดการคำสั่งซื้อที่เดียว

วิธีเข้าถึงหน้าจัดการออเดอร์

เข้าไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือก WooCommerce ในแถบเมนูซ้ายมือ จากนั้นเลือกหัวข้อ คำสั่งซื้อ

วิธีการแก้ไขรายการคำสั่งซื้อ

ทุกรายการสั่งซื้อสามารถเข้าไปแก้ไขรายละเอียดลูกค้า, แก้ไขรายการสินค้าและยอดเงิน, แก้ไขสถานะของรายการสั่งซื้อ

วิธีการแก้ไขรายการคำสั่งซื้อ สามารถทำตามขั้นตอนนี้

  1. ไปที่หน้าตั้งค่า Wordpress เลือก WooCommerce ในแถบเมนูซ้ายมือ จากนั้นเลือกหัวข้อ คำสั่งซื้อ แล้วเลือกคำสั่งซื้อที่ต้องการแก้ไข
  2. แก้ไขข้อมูลที่ต้องการ
  3. คลิก อัปเดต ในกล่องคำสั่งซื้อ Action เพื่อบันทึกการแก้ไข

สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อรายการสั่งซื้อถูกแก้ไขหรืออัปเดตใหม่

  • เมื่อแก้ไข, เปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เกี่ยวกับสินค้า, ภาษี และค่าจัดส่ง ระบบจะคำนวณยอดเงินรวมให้ใหม่
  • เมื่อเปลี่ยนสถานะรายการสั่งซื้อ หรือเพิ่มบันทึกถึงลูกค้า ระบบจะส่งอีเมลอัปเดตแจ้งลูกค้าอัตโนมัติ (จำเป็นต้องตั้งค่าอีเมล)
  • หากมีการเพิ่ม / ลบสินค้าจากรายการสั่งซื้อ โดยที่สินค้ารายการนั้นถูกตั้งค่าการจัดการสต๊อกสินค้าไว้ ระบบจะอัปเดตสต็อกสินค้าให้อัตโนมัติ

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามรายการข้างต้น ระบบจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงและแสดงข้อมูล, วันเวลา, ผู้กระทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลนั้นๆ ในหมายเหตุคำสั่งซื้อ (Order Note)

การจัดการออเดอร์ใหม่

เมื่อมีรายการสั่งซื้อใหม่เข้ามา ผู้ดูแลร้านค้าจะได้รับแจ้งเตือนทางอีเมลโดยอัตโนมัติ ตั้งค่าการแจ้งเตือนอีเมลที่ Woocommerce → ตั้งค่า → อีเมล)

สถานะออเดอร์ใหม่

รายการสั่งซื้อสินค้าที่เข้ามาใหม่ควรอยู่ในสถานะ รอการชำระเงิน (Pending Payment) หรือ รอแจ้งชำระเงิน (On hold) ขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงิน:

  • รอการชำระเงิน (Pending Payment): การชำระเงินยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เช่น รอการโอนเงินหรือรอตรวจสอบ
  • รอแจ้งชำระเงิน (On hold): การชำระเงินสำเร็จแล้ว แต่ต้องการการตรวจสอบหรือการอนุมัติก่อนดำเนินการจัดส่ง เช่น การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตที่รอธนาคารตรวจสอบ

ขั้นตอนการจัดการออเดอร์ใหม่

เมื่อได้รับแจ้งรายการสั่งซื้อสินค้าใหม่ สิ่งที่ต้องทำคือ

ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบออเดอร์

ลงชื่อเข้าใช้งานระบบ Wordpress และไปที่เมนู WooCommerce จากนั้นเลือกหัวข้อ คำสั่งซื้อ แล้วคลิกที่รายการสั่งซื้่อที่ต้องการตรวจสอบ

ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบรายละเอียดออเดอร์

  • ตรวจสอบข้อมูลลูกค้า (ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อ)
  • ตรวจสอบสินค้าในออเดอร์ (จำนวน, ราคา และรายการสินค้า)

ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบการชำระเงิน

  • ถ้าลูกค้าชำระเงินแล้ว ให้เปลี่ยนสถานะออเดอร์ เป็น กำลังดำเนินการ (Processing)
  • หากการชำระเงินยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ให้คงสถานะเดิม แล้วคอยตรวจสอบการชำระเงินใหม่อีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 4 จัดเตรียมสินค้า

เมื่อการชำระเงินเสร็จสมบูรณ์ สถานะของออเดอร์จะเป็น กำลังดำเนินการ (Processing) ให้จัดเตรียมสินค้าตามรายการสั่งซื้อให้ครบ และแพคสินค้าให้พร้อมจัดส่ง

ขั้นตอนที่ 5 จัดส่ง

เลือกวิธีการจัดส่งตามที่ลูกค้ากำหนด พิมพ์ใบปะหน้ากล่อง (ต้องใช้ Plugin เสริม) แล้วจึงจัดส่งสินค้า

ขั้นตอนที่ 6 แจ้งเตือนการจัดส่งให้ลูกค้าทราบ

  • เมื่อส่งสินค้าเรียบร้อยและต้องการแจ้งเลขพัสดุให้ลูกค้า สามารถใช้ Plugin เสริม หรือใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ “Order Note” วิธีเขียน Order note
  • เปลี่ยนสถานะออเดอร์จาก กำลังดำเนินการ (Processing) เป็น จัดส่งแล้ว (Completed) และคลิกอัปเดต อีเมลแจ้งเตือนสถานะ (พร้อมข้อมูลแจ้งเตือนเกี่ยวกับเลขพัสดุ) จะถูกส่งไปยังอีเมลของลูกค้าโดยอัตโนมัติ (สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนอีเมล โดยเข้าไปที่ Woocommerce → ตั้งค่า → อีเมล)